สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนมิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 1.79 หมื่นล้านยูโร จากระดับ 1.96 หมื่นล้านยูโรในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกหดตัวมากกว่านำเข้า ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนมิ.ย.จะอยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านยูโร
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกลดลง 1.2% ขณะที่นำเข้าลดลง 0.8% ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์การค้าที่ยังคงซบเซาในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้
โดยวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 หดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส หลังจากขยายตัว 0.4% ในไตรมาสแรก
สำนักงานสถิติระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ GDP หดตัวลงในไตรมาส 2 นั้นมาจากการส่งออกที่ทรุดตัวลง เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตของเยอรมนีได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาดต่างประเทศ และผลกระทบจากข้อพิพาทการค้า
หากเทียบเป็นรายปี GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 0.4% ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 0.7%
ด้านสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยวานนี้เช่นกันว่า GDP ของยูโรโซนขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เติบโต 0.4% ในไตรมาสแรก
เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 1.1% ในไตรมาส 2 หลังจากขยายตัว 1.2% ในไตรมาสแรก
การชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งความไม่แน่นอนกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)