สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 ที่ระดับ 5.9 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการเกินดุลครั้งแรกในรอบ 44 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2518 หลังจากที่มีการขาดดุลมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในไตรมาส 1
นอกจากนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 ของออสเตรเลียยังออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ออสเตรเลียเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาแร่เหล็กที่พุ่งขึ้น หลังจากอุปทานแร่เหล็กภายในประเทศประสบปัญหาติดขัด และจากการที่จีนwfhผลิตเหล็กในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์