ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ราคาค้าส่งของญี่ปุ่นปรับตัวลง 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนจากน้ำมันดิบที่ร่วงลง แม้ว่ามาตรการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภค จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
BOJ ระบุว่า ราคาสินค้าที่มีการซื้อขายระหว่างบริษัทกับบริษัทลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยไม่นับรวมผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคจาก 8% เป็น 10% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยราคาร่วงลง 1.9%
เจ้าหน้าที่ BOJ เปิดเผยว่า "นอกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง การปรับลดค่าไฟภายหลังผ่านพ้นฤดูร้อนไปแล้ว รวมถึงการที่รัฐบาลกำหนดราคายาให้ต่ำลงนับตั้งแต่เดือนต.ค. ล้วนส่งผลต่อราคาทั้งสิ้น"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ราคาผลิตภัณฑ์ถ่านหินและน้ำมัน ร่วงลง 14.1% เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ลดลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐฏิจโลก และยังทำสถิติปรับตัวลงมากสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2559 ที่ 16.8%
"ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ยาวนานระหว่างสหรัฐกับจีน สร้างแรงกดดันให้กับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในญี่ปุ่นหลายรายการ" BOJ ระบุ
ด้านราคาส่งออกร่วงลง 6.3% และราคานำเข้าร่วงลง 10.5% เมื่อพิจารณาในรูปของสกุลเงินเยน