กระทรวงการค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
รายงานระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อันเนื่องมาจากความต้องการสินค้าราคาแพงซบเซาลง เช่น รถยนต์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าก็ลดลงเช่นกัน โดยยอดขายในห้างสรรพสินค้าได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ
ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ออกมาแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 4.4% และเป็นการร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยดิ่งลงถึง 9.7% ในเดือนมี.ค. 2558
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มขึ้นภาษีการบริโภคสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 8% เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขภาระหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในระดับสูงที่สุดในบรรดาประเทศอุตสาหกรรม