สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นที่ระดับ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบสามปีที่ 0.7% ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.9%
อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลดลงมาสองเดือนติดต่อกัน สำหรับสาเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อฟื้นตัวขึ้นนั้นมาจากราคาพลังงาน รวมถีงราคาบริการต่างๆ
ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดพลังงานและอาหาร และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
อย่างไรก็ตาม แม้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB ซึ่งตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%" ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของ ECB คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงนิ่งในปีหน้า โดยคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเพียง 1% และ 1.5% ในปี 2564
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB มาอย่างต่อเนื่อง แม้ ECB ใช้มาตรการการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงการรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
โดยในการประชุมประจำเดือนต.ค. ECB ได้ประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน พร้อมระบุว่าจะดำเนินโครงการ QE เป็นระยะเวลานานเท่าที่มีความจำเป็น และจะยุติโครงการ QE ก่อนที่ ECB จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย