สมาคมเครือข่ายร้านค้าญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายสินค้าในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ลดลง 1.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการบริโภคที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวน 10,538 แห่งซึ่งดำเนินการโดยบริษัท 55 แห่ง อยู่ที่ระดับ 9.968 แสนล้านเยน (ประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์) โดยยอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตยังได้รับแรงกดดันจากอุณหภูมิที่เริ่มจะอุ่นขึ้นซึ่งทำให้ความต้องการในการซื้อเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวลดลง
สมาคมฯ ระบุว่า "การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงซบเซาจากผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีการบริโภค เราหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่"
ยอดขายอาหารซึ่งได้รับการยกเว้นให้เก็บภาษีในอัตรา 8% เท่าเดิม ลดลง 0.2% เนื่องจากการยกเว้นภาษีไม่รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10%
ส่วนยอดขายเสื้อผ้าปรับตัวลง 7.9% เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการซื้อเสื้อผ้าลดน้อยลง และยอดสินค้าในครัวเรือนลดลง 3.2% เนื่องจากความต้องการผ้าห่มและเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่อนแอลง