กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยได้อานิสงส์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้ตัวเลขการนำเข้าของสหรัฐลดลง ขณะที่ตัวเลขการส่งออกก็ลดลงเช่นกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559
ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 1.7% สู่ระดับ 6.168 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2556 และคิดเป็นสัดส่วน 2.9% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับ 3.0% ในปี 2561
ตัวเลขการนำเข้าสินค้าลดลง 1.7% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่การส่งออกลดลง 1.3%
สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 17.6% ในปีที่แล้ว สู่ระดับ 3.456 แสนล้านดอลลาร์ แต่ขาดดุลการค้ากับสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.779 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และขาดดุลการค้ากับเม็กซิโกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.018 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 11.9% สู่ระดับ 4.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์
หากปรับค่าตามเงินเฟ้อ สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
การนำเข้าสินค้าพุ่งขึ้น 3.2% สู่ระดับ 2.075 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับ 1.377 แสนล้านดอลลาร์