สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนมี.ค.ที่ร่วงลงรุนแรงถึง 15.8%
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกสินค้าเพื่อผู้บริโภคในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 2.82 ล้านล้านหยวน (3.98 แสนล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 0.32% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
ส่วนในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ยอดค้าปลีกสินค้าผู้ริโภคของจีน ร่วงลง 16.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 10.7 ล้านล้านหยวน แต่ยังน้อยกว่าในช่วง 3 เดือนแรกที่ร่วงลงถึง 19%
รายงานของ NBS ระบุว่า ยอดค้าปลีกในพื้นที่ชนบท ปรับตัวลง 7.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดค้าปลีกในพื้นที่เขตเมือง ลดลง 7.5%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การที่ยอดค้าปลีกของจีนปรับตัวลงนั้น เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้าน อีกทั้งทำให้ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ต้องปิดทำการชั่วคราวในช่วงเวลาดังกล่าว