สมาคมร้านค้าปลีกของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 4.5% ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลขอให้ประชาชนงดเดินทางออกนอกบ้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ตัวเลขดังกล่าวเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยยอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1.02 ล้านล้านเยน (9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากความต้องการเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ภายในบ้านที่ไม่จำเป็นปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม จำนวนซูเปอร์มาร์เก็ตปรับตัวเพิ่มขึ้น 151 แห่ง แตะที่ 10,770 แห่งในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อแยกตามประเภทของผลิตภัณฑ์ พบว่า ยอดขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์ภายในบ้านปรับตัวลดลง 54.3% และ 13.6% ตามลำดับ
ส่วนยอดขายอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7% เนื่องจากผู้บริโภคตุนอาหาร ทั้งอาหารปรุงสำเร็จและอาหารแช่แข็ง รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย