กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจดิ่งลง 1.3% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลงเพียง 0.8% หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค.
การดิ่งลงของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีก ซึ่งร่วงลง 3.7% ในเดือนเม.ย. ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.3%
ยอดขายในภาคธุรกิจทรุดลง 14.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากลดลง 5.2% ในเดือนมี.ค.
ส่วนยอดขายในภาคค้าส่งดิ่งลง 16.9% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ยอดขายในภาคค้าปลีกร่วงลง 12.7%
นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.67 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.45 เดือนในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่การลดลงของสต็อกสินค้าคงคลัง บ่งชี้ถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อยอดขายในอนาคต