ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 3/2563 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 หรือในรอบ 11 ไตรมาส หลังจากดัชนีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนีทังกันประจำไตรมาส 3 ดีดตัวขึ้นแตะระดับ -27 จากระดับ -34 ในไตรมาส 2 ขณะที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีทังกันประจำไตรมาส 3 จะอยู่ที่ -23
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิต ซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น ดีดขึ้นสู่ระดับ -12 ในไตรมาส 3 จากระดับ -17 ในไตรมาส 2
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การฟื้นตัวของดัชนีทังกันอาจเป็นปัจจัยบวกต่อนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือนก.ย. โดยนายซูงะได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ผลสำรวจของ BOJ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นมีโน้มปรับตัวขึ้นในไตรมาส 4 แต่ก็จะยังอยู่ในระดับติดลบ โดยคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่จะอยู่ที่ระดับ -17 ในไตรมาส 4 และคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ -11
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ BOJ ยังระบุด้วยว่า บริษัทขนาดใหญ่ทั้งในภาคการผลิตและนอกภาคการผลิต มีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนอีก 1.4% ในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2564 ซึ่งน้อยกว่าผลสำรวจในเดือนมิ.ย.ที่ระบุว่า บริษัททั้งสองภาคส่วนมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุน 3.2%