กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ทรุดตัวลงถึง 10.2% ในเดือนก.ย.ปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยในเดือนก.ย.ปีที่แล้วนั้น ความต้องการใช้จ่ายพุ่งขึ้นอย่างมากก่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนต.ค. 2562
ยอดใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนก.ย.ปีนี้ร่วงลงรุนแรงที่สุด รองจากในเดือนพ.ค.ซึ่งดิ่งลงถึง 16.2% และร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ทางกระทรวงเริ่มเผยแพร่ข้อมูลครั้งแรกในเดือนม.ค. 2544
ทั้งนี้ ยอดใช้จ่ายที่ร่วงลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) หดตัวลง 28.1% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ถึงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพิ่มขึ้น 2.6% สู่ 469,235 เยนในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 โดยได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลแจกเงินสด 100,000 เยนให้กับทุกครัวเรือน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนถือเป็นมาตรวัดสำคัญสำหรับการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน และคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น