ธนาคารกลางฝรั่งเศสเปิดเผยในวันนี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสปรับตัวลง 12% ในเดือนพ.ย. หลังจากฝรั่งเศสเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี มาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศใช้รอบใหม่นี้ มีความเข้มงวดน้อยกว่าที่ประกาศใช้ในครั้งแรก
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะลดลง 12% ในเดือนพ.ย. อันเนื่องมาจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งลดลงมากกว่าในเดือนต.ค.ที่ปรับตัวลงเพียง 4% อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.ยังดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่ร่วงลงรุนแรงถึง 31% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดในยุโรป
สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) รายงานเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสขยายตัว 18.2% ในไตรมาส 3 ของปี 2563 ซึ่งดีดขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากที่หดตัว 13.7% ในไตรมาส 2
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า GDP ไตรมาส 3 ของฝรั่งเศสจะขยายตัว 15.0% หลังจากที่หดตัวหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสก่อนหน้าอันเนื่องมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19