สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (INSEE) เปิดเผยวานนี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสหลังช่วงล็อกดาวน์มีแนวโน้มหดตัวลงในไตรมาส 4/2563 เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่บังคับใช้ทั่วประเทศเป็นครั้งที่สองนั้นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมของภาคธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 4/2563 จะหดตัว 4.5% หลังจากดีดตัวขึ้น 18.7% ในไตรมาส 3 โดยก่อนหน้านี้ INSEE คาดว่า GDP ของฝรั่งเศสจะหดตัวรายไตรมาสอยู่ที่ระหว่าง 2.5-6% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานของ INSEE ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสมีแนวโน้มปรับตัวลงอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 หลังจากที่ดีดตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสได้สั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบสอง
สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของ INSEE ระบุว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการล็อกดาวน์รอบสองมีแนวโน้มที่รุนแรงน้อยกว่าในช่วงสองเดือนแรกที่การล็อกดาวน์เริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.อยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดระบาดอยู่ราว 12% แต่ดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิดถึงราว 30%