สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกในไตรมาส 1/2564 พุ่งขึ้น 38.7% แตะที่ 4.61 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 7.04 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 19.3% แตะที่ 3.86 ล้านล้านหยวน ซึ่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 690.6% แตะที่ 7.5929 แสนล้านหยวน
ส่วนในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียวนั้น ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 30.6% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 38.1% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับยอดการส่งออกจากจีนไปยังสหรัฐในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 53.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐอยู่ที่ 2.137 หมื่นล้านดอลลาร์
เศรษฐกิจจีนได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั่วโลก รวมทั้งความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในหลายประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลจีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.4% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.3% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. ขณะที่การคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2565 ยังคงอยู่ที่ 5.6%
ทั้งนี้ IMF ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ครั้งล่าสุดว่า การปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2564 เป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง