สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 5.1% ในไตรมาส 1/2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส และหดตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะหดตัว 4.6% เนื่องจากการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบที่สองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งความล่าช้าในการฉีดวัคซีน ได้ส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภค
รายงานระบุว่า การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเลข GDP ญี่ปุ่นนั้น ลดลง 1.4% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2% ขณะที่การใช้จ่ายด้านทุนปรับตัวลง 1.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4%
ส่วนการส่งออกในไตรมาส 1 ขยายตัว 2.3% โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของความต้องการรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดโลก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลญี่ปุ่นขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสปัจจุบัน และยังสร้างความท้าทายให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นในการหาแนวทางต่างๆที่จะพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะซบเซา