กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นในไตมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส อันเนื่องมาจากภาวะขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นทั่วโลก และจากการที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 พันล้านเยน (9.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ปรับตัวลงสู่ระดับ -4.7 ในไตรมาส 2 จากระดับ -4.5 ในไตรมาส 1 โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2
เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคส่วนพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตลดลงสู่ระดับ -1.4 ในไตรมาส 2 จากระดับ +1.6 ในไตรมาส 1 โดยดัชนีปรับตัวสู่แดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส
เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นปรับตัวลง เนื่องจากภาวะขาดแคลนชิปทั่วโลกได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของบรรดาบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าประเภทอื่นๆ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทนอกภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -6.2 ในไตรมาส 2 จากระดับ -7.4 ในไตรมาส 1 อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของภาคส่วนนี้ยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากผลกระทบจากการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบที่ 3 ในญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดให้ร้านอาหารและบาร์ที่ให้บริการแอลกอฮอล์ต้องปิดการบริการชั่วคราว และขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวได้จากการสำรวจบริษัทจำนวน 14,735 ราย โดยในจำนวนนี้มีบริษัทที่ตอบรับการสำรวจจำนวน 11,133 ราย หรือประมาณ 75.6% ภายในวันที่ 15 พ.ค.