เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐเปิดเผยยอดขายรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ขณะเดียวกันคาดว่า แนวโน้มที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากประชาชนเริ่มหันมาใช้ยานพาหะส่วนตัวและรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ กันมากขึ้น
นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ยังได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจากการที่ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้นในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด แม้ว่าราคารถยนต์ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากรถยนต์ในสต็อกมีจำนวนน้อยลงหลังจากเกิดปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก
ทั้งนี้ จีเอ็มเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐพุ่งขึ้น 40% ในไตรมาส 2 แตะที่ระดับ 688,236 คัน พร้อมระบุว่า ยอดขายรถยนต์ Chevrolet Bolt EV มียอดการจัดส่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2/2564 โดยยอดขายโดยรวมของรถยนต์ Chevrolet พุ่งขึ้น 31% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ Buick premium SUV ทะยานขึ้น 86%
นายอีเลน บัคเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของจีเอ็มกล่าวว่า "เราคาดว่าความต้องการรถยนต์จะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565"
ทางด้านฟอร์ด มอเตอร์ซึ่งขายรถยนต์ Mach-E SUV ได้มากกว่า 10,000 คันในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น F-150 ในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าฟอร์ดจะเปิดเผยยอดขายรถยนต์ประจำไตรมาส 2 ในวันนี้