ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 4% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งใกล้เคียงกับที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ในกรอบ 3.9% - 4.7% ในเดือนดังกล่าว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.9%
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์เคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายของรัฐบาลซึ่งกำหนดไว้ที่ 2% - 4%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารสดและเชื้อเพลิงซึ่งมีความผันผวนอยู่ที่ระดับ 2.9% ในเดือนก.ค. ชะลอตัวลงจากระดับ 3% ในเดือนมิ.ย.
นายเบนจามิน ดิอ็อคโน ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางในช่วงปี 2565-2566 และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะชะลอตัวลงอีกเนื่องจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์
รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในเขตเมโทร มะนิลา (Metro Manila) เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และเพื่อป้องกันระบบสาธารณสุขของฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ เขตเมโทร มะนิลาซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 16 เมือง และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 13 ล้านคน จะเข้าสู่มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 6-20 ส.ค. โดยมาตรการล็อกดาวน์จะทำให้ประชาชนไม่สามารถออกจากบ้านได้ ยกเว้นการซื้อสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงสั่งห้ามการทานอาหารที่ร้าน ทั้งด้านในร้านและบริเวณนอกร้าน
ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 7,342 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,619,824 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากอินโดนีเซีย
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 90 ราย สู่ระดับ 28,231 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนเช่นกัน