รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.ของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับสูงสุดของปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะดำเนินการใดๆ ในทันที และให้คำมั่นที่จะรักษานโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จำเป็น
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 4.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 4.1-4.9% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.4%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและเชื้อเพลิงซึ่งมีความผันผวนอยู่ที่ระดับ 3.3% ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.9% ในเดือนก.ค.
ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยของฟิลิปปินส์ในเดือนม.ค.-ส.ค.อยู่ที่ 4.4% ซึ่งเกินกว่ากรอบเป้าหมายของปีนี้ที่ 2-4%
สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ระบุว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นนั้นเป็นผลส่วนใหญ่มาจากแรงกดดันด้านราคาอาหารที่ปรับตัวขึ้น
นายเบนจามิน ดิอ็อคโน ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) กล่าวว่า เงินเฟ้อในเดือนส.ค.ยังคงสอดคล้องกับการประเมินของธนาคารกลางที่ว่า เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงอยู่ในกรอบเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้
BSP ซึ่งมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 23 ก.ย.นี้นั้น ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2% นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา