สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า การส่งออกของอินโดนีเซียในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.142 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น ทำให้อินโดนีเซียมีการเกินดุลการค้ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือน
ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา อินโดนีเซียซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการส่งออกเพิ่มขึ้น 64.1% เมื่อเทียบรายปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 36.9%
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และแก๊สธรรมชาติเพิ่มขึ้นกว่า 100% นอกจากนี้ การส่งออกทองแดง ดีบุก และเหล็กกล้าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การส่งออกในเดือนส.ค.แซงหน้าสถิติเดิมที่ 1.865 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. 2554 ในช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกราคาพุ่งขึ้นเมื่อครั้งก่อน
ทั้งนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศต่างๆ เริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากที่ทำการล็อกดาวน์เพื่อคุมโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว ส่วนราคาถ่านหินและน้ำมันปาล์มทำสถิติสูงสุดเนื่องจากอุปสงค์แซงหน้าอุปทาน ขณะที่ราคาดีบุกก็พุ่งขึ้นเช่นกันเนื่องจากปัญหาอุปทานตึงตัว
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อินโดนีเซียมีการเกินดุลการค้าทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 โดยมียอดเกินดุลการค้าในเดือนส.ค.อยู่ที่ 4.74 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.36 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค.อยู่ที่ 2.59 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตัวเลขนำเข้าเดือนส.ค.ของอินโดนีเซียยังเพิ่มขึ้น 55.26% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.668 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 45.1%