สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนเดือนส.ค.ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาขาดแคลชิ้นส่วนที่สำคัญบางรายการ
รายงานของ NBS ระบุว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 10.1% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 6.803 แสนล้านหยวน (1.05 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งชะลอลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 16.4%
การผลิตในภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือนส.ค.ขยายตัวในอัตราที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ, ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น, การดำเนินตามนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของรัฐบาลจีน และปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์
ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนปรับตัวขึ้น 49.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 5.61 ล้านล้านหยวน ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ที่มีการขยายตัว 57.3%
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในจีนยังคงพุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของโรงงานขนาดกลางและโรงงานปลายน้ำ นอกจากนี้ แนวโน้มของกลุ่มผู้ผลิตยังอ่อนแอลงหลังจากรัฐบาลจีนประกาศควบคุมการใช้พลังงานของกลุ่มบริษัทที่ใช้พลังงานสูงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในหลายภูมิภาคของจีนและทำให้การผลิตได้รับผลกระทบอย่างหนัก
สำหรับหนี้สินของบริษัทอุตสาหกรรมจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 8.4% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 8.2%
ทั้งนี้ ข้อมูลกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนได้จากการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากธุรกิจหลักมากกว่า 20 ล้านหยวนต่อปี