สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI เดือนพ.ย.ของจีนขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 2.5% เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อุปสงค์และการบริโภคชะลอตัวลง
รายงานของ NBS ระบุว่า ราคาอาหารดีดตัวขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ราคาเนื้อหมูซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวจีน ปรับตัวลง 32.7% และราคาผักผลไม้สดพุ่งขึ้น 30.6%
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนกำหนดเป้าหมายดัชนี CPI สำหรับปี 2564 เอาไว้ประมาณ 3%
นอกจากนี้ NBS รายงานในวันนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน เพิ่มขึ้น 12.9% ในเดือนพ.ย. แม้ว่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์ที่ระดับ 12.4% แต่ตัวเลขดังกล่าวชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 13.5%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PPI เดือนพ.ย.ชะลอตัวลงนั้น มาจากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการสกัดการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และดำเนินนโยบายที่เข้มงวดเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนพลังงาน โดยมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19