สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียโตขึ้น 5.02% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 4/2564 จาก 3.51% ในไตรมาสที่ 3/2564 สอดคล้องกับการคาดการณ์ของรัฐบาล และขยายตัวมากกว่าที่โพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ที่ 4.90%
เศรษฐกิจของอินโดนีเซียขยายตัวในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากมีการบริโภคเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นผลักดันให้ยอดการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์
สำหรับทั้งปี 2564 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 3.69% จากที่หดตัว 2.07% ในปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ไม่สดใสนัก เนื่องด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น ประกอบกับตลาดการเงินอาจเกิดความผันผวนขึ้นเนื่องจากการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินอีกด้วย
ด้านการบริโภคภาคครัวเรือนในไตรมาสที่ 4 เติบโต 3.6% จาก 1% ในไตรมาสที่ 3 โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ การลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเร็วขึ้นในไตรมาสที่ 4 โดยนายมาร์โก ยูโวโน หัวหน้าสำนักงานสถิติของอินโดนีเซียกล่าวว่า เป็นเพราะกิจกรรมของภาครัฐและเอกชนกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังจากที่หยุดไปในไตรมาสที่ 3
ขณะเดียวกัน การส่งออกก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 29.8% จาก 29.2% ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากราคาสินค้าส่งออก เช่น น้ำมันปาล์ม, ถ่านหิน และนิกเกิล ยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ดี มาตรการล็อกดาวน์ได้ผ่อนคลายลงในช่วงปลายเดือนส.ค. 2564 เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อลดลง
ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้งในอินโดนีเซียเนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอน โดยเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,057 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซียไม่ได้บังคับใช้มาตรการสกัดโควิดอีกครั้งแต่อย่างใด