ทั้งนี้ นายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสได้กล่าวต่อสถานีวิทยุฟรานซ์ อินเตอร์ ว่า ยอดขาดดุลในระดับสูงของฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึง "รอยด่างพร้อย" ทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเขาเสริมว่าการปรับดุลการค้าและพัฒนาสถานะทางการเงินของประเทศถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กำลังจะเผชิญศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเม.ย.
ในเดือนที่แล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า เศรษฐกิจของฝรั่งเศสในปี 2564 โตขึ้น 7% ซึ่งเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ทศวรรษหรือนับตั้งแต่ปี 2512 โดยฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดจากการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ที่มีการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดจนเศรษฐกิจหดตัวไป 8%
แม้ฝรั่งเศสเผชิญการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง แต่เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูที่สุดในยุคได้หนุนความนิยมในด้านการบริหารเศรษฐกิจของปธน.มาครง ในช่วงไม่ถึง 3 เดือนก่อนถึงการเลือกตั้งเดือนเม.ย. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศต่อเป็นสมัยที่ 2