สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564 ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น, ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และโรคโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดในจีนขณะนี้
ทั้งนี้ ดัชนี PPI เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่มีการขยายตัว 9.1% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 8.7%
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขยับขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการขยายตัวในเดือนม.ค. และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปีนี้ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่รัฐบาลพยายามจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงระบุในรายงานที่ยื่นต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ไว้ที่ราว 5.5% โดยไม่ได้ระบุถึงการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ที่ราวระดับ 5.5% นั้น ลดลงอย่างมากจากการขยายตัวในปีที่ผ่านมาที่ 8.1%