สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (18 พ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษพุ่งแตะระดับ 9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ทำให้วิกฤติค่าครองชีพของอังกฤษทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายเดือนและ 9.1% เมื่อเทียบรายปีในผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวรอยเตอร์
ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบรายปีนี้เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการเริ่มต้นเก็บข้อมูลในปี 2532 โดยสูงกว่าสถิติเดิมที่ 8.4% ในเดือนมี.ค. 2534 และสูงกว่าระดับ 7% ในเดือนมี.ค. 2565
ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงานของอังกฤษได้เพิ่มเพดานราคาพลังงานภาคครัวเรือน 54% หลังราคาพลังงานพุ่งขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์ของราคาก๊าซโลก
ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดกัน จากระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในยุคโควิด-19 ที่ 0.1% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ 1% โดยหวังว่าจะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ