ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.ของจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า แม้ว่านครเซี่ยงไฮ้และอีกหลายเมืองของจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 41.4 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 36.2 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ข้อมูลของไฉซินระบุว่า ดัชนีการส่งออกล็อตใหม่ในภาคบริการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนพ.ค. และอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 48.5 ในเดือนพ.ค. ลดลงจากระดับ 49.3 ในเดือนเม.ย.
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 47.8 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 41.9 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคบริการ
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จีนพยายามลดอัตราการว่างงานลง และทำให้เศรษฐกิจเติบโตในกรอบที่เหมาะสมในไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังจากอัตราว่างงานในเดือนเม.ย.ของจีนพุ่งขึ้นแตะ 6.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
ทั้งนี้ นายหลี่ยอมรับว่า จีนอาจจะพลาดเป้าหมายการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว 5.5% ในปีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า GDP ปี 2565 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4.5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีน