กรมศุลกากรเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 1-20 เดือนมิ.ย. ลดลง 3.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 3.128 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนวันทำงานลดลง
ทั้งนี้ จำนวนวันทำงานในช่วง 20 วันแรกของเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 13.5 วัน ลดลง 2 วันเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกรายวันโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 11% ในช่วงเวลาดังกล่าว
การส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันพุ่งขึ้น 88.3% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์และเครื่องใช้ภายในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.9% และ 2.0% ตามลำดับ ส่วนการส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์มือถือ ในช่วง 20 วันแรกเดือนนี้ ปรับตัวลงในอัตราเลข 2 หลัก
เมื่อแยกเป็นรายประเทศพบว่า การส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ปรับลดลง 6.8% ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) และเวียดนามลดลงในอัตราเลข 1 หลัก
ด้านการนำเข้ามีการขยายตัวขึ้น 21.1% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 3.892 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 20 วันแรกของเดือนนี้ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 7.64 พันล้านดอลลาร์
ในปี 2565 เกาหลีใต้ขาดดุลการค้า 4.74 พันล้านนดอลลาร์ในเดือนม.ค., ขาดดุล 2.51 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. และขาดดุล 1.71 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการนำเข้าแหล่งพลังงานหลักทั้งสามประเภทของเกาหลีใต้ได้แก่ น้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาตินั้น อยู่ที่ 9.26 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 20 วันแรกของเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 67.5% เมื่อเทียบรายปี