สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการศึกษาฉบับหนึ่งซึ่งคาดการณ์ว่า อังกฤษจะเป็นประเทศเศรษฐกิจแบบปิดมากขึ้นเนื่องจากเบร็กซิต (Brexit) ขณะที่ความเสียหายต่อผลิตภาพและค่าแรงในระยะยาวจากเบร็กซิตจะทำให้แรงงานมีรายได้โดยเฉลี่ยลดลง 470 ปอนด์ (577 ดอลลาร์) ต่อปีก่อนสิ้นทศวรรษนี้
สำหรับผลการศึกษาดังกล่าวนั้น รองศาสตราจารย์สวาตี ดิงกรา จากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) ซึ่งจะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในเดือนส.ค.นี้ จัดทำขึ้นร่วมกับคณะผู้วิจัยจากสถาบันคลังสมอง เรโซลูชัน ฟาวเดชัน (Resolution Foundation)
คณะผู้วิจัยกล่าวว่า กฎการค้าฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. 2564 ภายหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แล้วนั้น ไม่ได้ทำให้การค้าระหว่างอังกฤษกับ EU ลดลงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ในโลก ซึ่งผิดไปจากความคาดหมายก่อนหน้าของนักวิเคราะห์จำนวนมาก
โซฟี เฮล นักเศรษฐศาสตร์จากเรโซลูชัน ฟาวเดชัน กล่าวว่า "เบร็กซิตส่งผลกระทบในลักษณะกระจายตัวมากกว่า โดยลดทอนความสามารถในการแข่งขันและความเปิดกว้างทางการค้าของสหราชอาณาจักรกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งในที่สุดจะไปลดผลิตภาพและค่าแรงที่แท้จริงของคนงานด้วย"
หลังผลการศึกษาดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทางรัฐบาลอังกฤษกล่าวว่ากำลังเตรียมร่างกฎหมายใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโต พร้อมระบุว่าขณะนี้การค้ากับ EU สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว