สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิ.ย. เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้ยอดสั่งซื้อใหม่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยลดลงจากระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนยังคงมีการขยายตัว แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนียอดสั่งซื้อรวมขั้นต้นร่วงลงสู่ระดับ 47.4 โดยหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อคงค้างลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของสหรัฐ ลดลงสู่ 52.4 ในเดือนมิ.ย.จาก 57.0 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 56.0
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้น ลดลงสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. จาก 53.4 ในเดือนพ.ค.