รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (29 มิ.ย.) ว่า ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่า การบริโภคที่แข็งแกร่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในช่วงที่เหลือของปี 2565
รายงานระบุว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 3.6% ในเดือนพ.ค.จากปีก่อน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่คาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 3.3% หลังเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกข้อจำกัดในการสกัดกั้นโรคโควิด-19 สำหรับการให้บริการแบบพบปะทั่วประเทศ
เมื่อเทียบแบบรายเดือน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อน ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดสัปดาห์ทอง (Golden Week) จนถึงช่วงต้นเดือนพ.ค. โดยไม่มีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562
ด้านนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การฟื้นตัวของการบริโภคภาคบริการและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ขยายตัวขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกได้ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นจะขยายตัว 4.1% ต่อปีในไตรมาส 2 หลังจากหดตัว 0.5% ในไตรมาสแรก (ม.ค.ถึงมี.ค.)
อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นและการอ่อนค่าของเงินเยนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี ได้สร้างความวิตกกังวลว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ได้แรงหนุนจากการบริโภคของญี่ปุ่นนั้น อาจถูกกดดันตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้