สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ของจีนพุ่งขึ้น 17.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเริ่มฟื้นตัว หลังถูกกระทบอย่างหนักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19
ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.แข็งแกร่งกว่าในเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.9% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 12%
อย่างไรก็ดี ยอดนำเข้าเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 4.1% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 3.9% เนื่องจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การอุปโภคบริโภคภายในประเทศอ่อนแรงลง
ส่วนยอดเกินดุลการค้าเดือนมิ.ย.ของจีนอยู่ที่ 9.794 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.876 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก ยอดส่งออกของจีนพุ่งขึ้น 13.2% เมื่อเทียบรายปี และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.8%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนมิ.ย. และอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.