นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนอินโดนีเซียระบุในวันนี้ (20 ก.ค.) ว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอินโดนีเซียพุ่งขึ้น 39.7% ในไตรมาส 2/2565 เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 163.2 ล้านล้านรูเปียห์ (1.089 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
ทั้งนี้ FDI ซึ่งไม่รวมการลงทุนภาคธนาคาร และน้ำมันและก๊าซ ยังเพิ่มขึ้นหลังจากที่ปรับตัวขึ้น 31.8% ในไตรมาส 1/2565
การพุ่งขึ้นของยอด FDI ในไตรมาส 2 นี้ส่วนใหญ่แล้วได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาอุตสาหกรรมปลายน้ำในภาคเหมืองแร่และปิโตรเคมีที่เข้าสู่ระยะการก่อสร้าง
สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่นเป็นแหล่งลงทุนต่างชาติชั้นนำของอินโดนีเซียในไตรมาส 2 โดยการปรับขึ้น 39.7% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากการเก็บข้อมูลของไอคอน เรฟินิทิฟ (Eikon Refinitiv) นับตั้งแต่ปี 2554
นอกจากนี้ นายบาห์ลิลยังกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะมุ่งเป้าไปยังภาคแปรรูปโลหะและอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียน โดยเน้นย้ำว่า รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนสั่งห้ามการส่งออกบ็อกไซต์และดีบุก เพื่อส่งเสริมการลงทุนในโรงงานแปรรูปแร่ธาตุเหล่านี้ภายในประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการลงทุนจากต่างชาติในอินโดนีเซีย