ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.324 แสนล้านเยน (980 ล้านดอลลาร์) ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ จากที่เคยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 8.72 แสนล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากญี่ปุ่นมียอดนำเข้าที่สูงกว่ายอดส่งออก ซึ่งสะท้อนให้เห็นแรงกดดันจากปัญหาราคาพลังงานและวัตถุดิบแพง
ราคาน้ำมันและถ่านหินซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นทำให้ญี่ปุ่นนำเข้าแพงขึ้น โดยญี่ปุ่นมีมูลค่าการนำเข้าทะยานขึ้นถึง 49% เทียบรายปี แซงหน้ามูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพียง 20%
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินเยนยังทำให้ต้นทุนนำเข้าเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่มูลค่าการส่งออกก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากอย่างที่เคยทำได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกทยอยย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลบัญชีเดินสะพัดสะท้อนให้เห็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เนื่องจากรายได้จำนวนมากของญี่ปุ่นมาจากการลงทุนในพอร์ตและการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ