เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2565 เนื่องจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์รายงานในวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 7.4% ในไตรมาส 2/2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัว 8.2% และเทียบกับการคาดการณ์เฉลี่ยที่ 8.4% ในผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
"ปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเงินเฟ้อจากการนำเข้าสินค้า ซึ่งรวมถึงการนำเข้าพลังงานและอาหารนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ชะลอตัวอย่างชัดเจน" นายอาร์เซนีโอ บาลิซากัน รัฐมนตรีฝ่ายวางแผนเศรษฐกิจฟิลิปปินส์กล่าวที่กรุงมะนิลา
การใช้จ่ายภาคครัวเรือนหดตัว 2.7% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ขณะที่เงินเฟ้อในไตรมาส 2 อยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% - 4% ของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ และปรับขึ้นสู่ระดับ 6.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561
นายบาลิซากันเปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไตรมาส 2 เติบโตสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่ระดับ 6.5% ในปีนี้ แต่คาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจชะลอตัวมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก
ตัวเลขจีดีพีล่าสุดนี้อาจช่วยให้ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนายเฟลิเป เมดาลลา ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% หรือ 0.50% ในวันที่ 18 ส.ค.และอาจปรับขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้