คันทาร์ (Kantar) บริษัทวิจัยการตลาด เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อร้านขายของชำในอังกฤษพุ่งขึ้น 11.6% ในเดือนส.ค. นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2551 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายประจำปีเพิ่มขึ้น 533 ปอนด์ (642 ดอลลาร์) ในช่วงวิกฤตค่าครองชีพครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
คันทาร์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในขณะนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการสำรวจราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อ 14 ปีก่อน
ทั้งนี้ คันทาร์กล่าวว่า เนื่องด้วยราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้นักชอปชาวอังกฤษหันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ของร้านค้าเองมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์ ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ของซูเปอร์มาร์เก็ตขยายตัวขึ้น 7.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เคยมีการบันทึกไว้ ในขณะที่ยอดขายสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ตอนนี้คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของซูเปอร์มาร์เก็ต
ด้านนักวิจัยการตลาดระบุว่า ผลิตภัณฑ์อย่างเนย, นม และเนื้อสัตว์ปีก มีการปรับขึ้นราคาเร็วที่สุด
ธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อจะทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 13.3% ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 โดยได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้น ประกอบกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) และห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย