ทางการตุรกีประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคครัวเรือนประมาณ 20% และ 50% สำหรับภาคอุตสาหกรรมในวันนี้ (1 ก.ย.) โดยเป็นการเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น หลังจากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกือบ 80% ในเดือนก.ค.
จากการคำนวนของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า ราคาสาธารณูปโภคที่ปรับตัวขึ้นจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้พุ่งขึ้น 0.8% ขณะเดียวกันราคาสาธารณูปโภคที่สูงขึ้นสำหรับภาคอุตสาหกรรมนั้นยังทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นทางอ้อม เนื่องจากผู้ผลิตผลักภาระด้านต้นทุนให้แก่ผู้บริโภค
หน่วยงานกำกับดูแลตลาดพลังงานของตุรกี (EPDK) กล่าวว่า ทางหน่วยงานได้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนประมาณ 20% ภาคการบริการสาธารณะราว 30% ส่วนภาคอุตสาหกรรมปรับขึ้นราว 50%
ด้าน BOTAS ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจผู้นำเข้าพลังงานของตุรกีระบุว่า ได้ปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศราว 20.4% และปรับขึ้น 47.6% สำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงปรับขึ้น 50.8% สำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
นอกจากนี้ BOTAS ระบุด้วยว่า ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้านั้นเพิ่มขึ้น 49.5%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ต้องปรับขึ้นค่าพลังงานในครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งในยูเครนและสถานการณ์ความเคลื่อนไหวบนโลก รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19