หุ้นบริษัทเนเวอร์ คอร์ป (Naver Corp) ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีในการซื้อขายระหว่างวัน หลังประกาศเรื่องเข้าซื้อกิจการบริษัทพอชมาร์ก อิงค์ (Poshmark Inc) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายเสื้อผ้าแฟชั่นมือสองของสหรัฐ ผ่านข้อตกลงมูลค่าราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าแรกเริ่มในการเข้าตลาดหุ้นกว่าครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ เนเวอร์ระบุว่า บริษัทตกลงที่จะซื้อหุ้นของพอร์ชมาร์กในราคาหุ้นละ 17.90 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดประมาณ 15% เมื่อเทียบกับราคา 15.57 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.)
ข่าวการเข้าซื้อหุ้นพอชมาร์กครั้งนี้ ทำให้หุ้นเนเวอร์ดิ่งลงมากถึง 7.8% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ในวันนี้ (4 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากซิติ กรุ๊ปเพิ่งออกมาปรับลดอันดับหุ้นลงสู่ "ขาย" โดยให้เหตุผลว่า อัตราส่วนราคาต่อกำไรของเนเวอร์นั้นคำนวณได้ยากเมื่อเทียบกับบริษัทอินเทอร์เน็ตรายอื่น ๆ
ขณะที่ หุ้นพอชมาร์กถูกระงับการซื้อขายจากข่าวดังกล่าว หลังปรับตัวลง 0.6% โดยพอชมาร์กจะกลายเป็นบริษัทลูกในสหรัฐเพียงหนึ่งเดียวของเนเวอร์ และจะยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของนายมาณิช จันทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและทีมบริหารของเขาต่อไป
"ดิฉันคิดว่าตลาดแปลกใจต่อขนาดของข้อตกลงซื้อกิจการพอชมาร์ก โดยเราจะชี้แจงให้นักลงทุนทราบเกี่ยวกับแผนความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการควบรวมกิจการครั้งนี้" นางเชว ซูยอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนเวอร์กล่าว โดยยอมรับว่า นี่คือการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของเนเวอร์และเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ซิลิคอนวัลเลย์เป็นครั้งแรก
การควบรวมกิจการครั้งนี้จะช่วยให้พอร์ชมาร์กเข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กว้างขวางของเนเวอร์ ขณะเดียวกัน เนเวอร์ก็ได้ครอบครองพอชมาร์ก ซึ่งเป็นแบรนด์สหรัฐที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ พอชมาร์กมีความพยายามที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ แม้ว่าหุ้นปรับตัวลดลงตลอดช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา