สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงมากสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าเพิ่มขึ้นทำให้แนวโน้มการใช้จ่ายขององค์กรย่ำแย่ลง
นอกจากนี้ ผลการสำรวจของรอยเตอร์ ทังกัง (Tankan) ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งมีความผันผวนสูงและถือเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายในการลงทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า ลดลง 5.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
ยอดสั่งซื้อดังกล่าวนับเป็นการลดลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ที่ลดลง 9.8% ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.3%
ดาร์เรน เทย์ นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นจากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า "แม้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจะปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนส.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อนอกภาคการผลิตที่ร่วงลง แต่ค่าเฉลี่ยในไตรมาสที่ 3 ยังคงชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของการลงทุนนอกภาคที่อยู่อาศัย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเฉลี่ยของไตรมาส 3 นั้นขยายตัว 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2565"
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคไฟฟ้า ขยายตัว 9.7% ในเดือนส.ค.