ผลสำรวจของมาร์กิตและไฉซินระบุว่า กิจกรรมในภาคบริการของจีนยังคงหดตัวลงในเดือนต.ค. เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการอุปโภคบริโภค ซึ่งคาดว่าจะบดบังแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.ของจีน ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้ จากระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลให้เกิดภาวะชะงักงันและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ลดลงสู่ระดับ 48.7 จากระดับ 50.6 ในเดือนก.ย.
ทางการจีนได้ทำการล็อกดาวน์พื้นที่หลายแห่งอย่างเงียบ ๆ นับตั้งแต่มีการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากพบว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด โดยการล็อกดาวน์ครอบคลุมถึงเมืองสำคัญ ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้ เจิ้งโจว และกวางโจว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและการใช้ชีวิตของประชาชน