สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. เนื่องจากยอดส่งออกพุ่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากราคาแร่เหล็ก โลหะ และพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 8.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนส.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยอดส่งออกโดยรวมในเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดการนำเข้าปรับตัวขึ้นเพียง 0.4% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นภายในประเทศ
ออสเตรเลียส่งออกแร่เชื้อเพลิงมูลค่า 1.092 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากระดับ 8.64 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ยังได้ส่งออกแร่โลหะและแร่ธาตุ เพิ่มขึ้น 8.7% สู่ระดับ 1.451 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของออสเตรเลียสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าออสเตรเลียเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีในไตรมาส 3 ซึ่งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเช่นนี้อาจจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ