สตาร์บัคส์เปิดเผยผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากลูกค้าสหรัฐที่ยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อซื้อกาแฟเย็น รวมถึงพัมพ์กิน สไปซ์ ลาเต้ (Pumpkin Spice Lattes) เครื่องดื่มยอดนิยมประจำฤดูใบไม้ร่วง
นางราเชล รักเกอรี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเปิดเผยในการประชุมรายไตรมาสของบริษัทว่า แม้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าตลอดทั้งปี แต่ปริมาณการขายรายวันของร้านสตาร์บัคส์ในสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับประมาณ 95% ของยอดขายก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้แรงหนุนจากโปรโมชั่นฤดูใบไม้ร่วงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
สตาร์บัคส์รายงานผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2565 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ระดับ 81 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 72 เซนต์ในผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์โดยรีฟินิทิฟ (Refinitiv)
ส่วนรายได้อยู่ที่ 8.41 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 8.31 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7%
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ในสหรัฐรายงานการเติบโตของยอดขายอยู่ที่ 11% ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้คนใช้จ่ายโดยเฉลี่ยมากขึ้นและจำนวนผู้ซื้อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ ราคาสินค้ายังปรับตัวขึ้น 6% จากปีก่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้บริหารกล่าวว่า พวกเขายังไม่มีแผนการที่จะปรับขึ้นราคาสินค้าอีกในระยะนี้