สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.618 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ตัวเลขของ API จะแสดงปริมาณน้ำมันดิบที่มีอยู่ในสต็อก ซึ่งบ่งชี้ถึงภาพรวมของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ โดยหากปริมาณน้ำมันดิบในสต็อกเพิ่มขึ้นเกินคาด ก็แสดงว่าความต้องการใช้พลังงานลดลง และจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 88.91 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันอังคาร (8 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงาน และผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การใช้พลังงานของสหรัฐในปีหน้าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดพลังงาน
EIA ระบุในรายงานแนวโน้มด้านพลังงานระยะสั้นประจำเดือนพ.ย. (November Short-Term Energy Outlook Report) ว่า แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) บ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐปรับตัวลงเล็กน้อยในปี 2566 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานชะลอตัวลงด้วย
ทั้งนี้ EIA มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสำหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว