สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ตัวเลขจ้างงานพุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อลดความร้อนแรงของตลาดแรงงานซึ่งอยู่ในภาวะที่ตึงตัวมากในขณะนี้
รายงานของ ABS ระบุว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.ลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2517 จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย. ส่วนตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 32,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ลดลง 3,800 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
ข้อมูลแรงงานเดือนต.ค.ของออสเตรเลียแข็งแกร่งกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 15,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.6%
ขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานอยู่ที่ระดับ 66.5% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนก.ย.
ทั้งนี้ การร่วงลงของอัตราว่างงานอาจผลักดันให้ธนาคารกลางออสเตรเลียเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการที่อัตราเงินเฟ้อยังไม่ผ่านจุดสูงสุด
ในรายงาน Statement on Monetary Policy ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ราว 8% ในปีนี้ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 7.75% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 6.5% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6%