นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 18, 2022 16:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลงสู่ระดับ 0.50% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่บางส่วนมองว่า การที่เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินยาวนานมากขึ้นและปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดให้สูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐลดลงระดับต่ำกว่า 8% สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งหนุนคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในปีที่จะถึงนี้และในปีถัดไปอาจสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เมื่อเดือนก่อนเล็กน้อย พร้อมแนะนำว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่เฟดจะพิจารณาการหยุดใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในเร็ว ๆ นี้

นักเศรษฐศาสตร์ 78 จาก 84 คนจากผลสำรวจเมื่อวันที่ 14-17 พ.ย. คาดว่า เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่กรอบ 4.25-4.50% ในการประชุมนโยบายวันที่ 13-14 ธ.ค.

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเฟดได้ปรับขึ้นจากระดับใกล้เคียง 0% ในเดือนมี.ค. กลายเป็นหนึ่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุด โดยหลายฝ่ายคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับสูงสุดที่อย่างน้อย 4.75-5.00% ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ 0.25% เมื่อเดือนก่อน และอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 4.25-4.50% และ 5.75-6.00%

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ 16 จาก 28 คนมองว่า ความเสี่ยงที่น่ากังวลมากกว่าคืออัตราดอกเบี้ยจะสูงสุดจะสูงขึ้นและยาวนานกว่าที่คาดไว้ ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์อีก 4 คนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่คาดและลดลงเร็วกว่าที่คาด ส่วนที่เหลือมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าที่คาดและลดลงเร็วกว่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ