หุ้นคอยน์เบส (Coinbase) ปิดร่วงลงมากกว่า 8% เมื่อวานนี้ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเทรดครั้งแรกในตลาดเมื่อเดือนเม.ย. 2564 ซึ่งการร่วงลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่บิตคอยน์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ในช่วงต้นเดือนนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หลังจาก 19 เดือนที่คอยน์เบสได้เริ่มการซื้อขายหุ้นในตลาดด้วยมูลค่าสูงกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมูลค่าตลาดของคอยน์เบสกลับดิ่งลงมาสู่ระดับต่ำกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูญเสียมูลค่าตลาดไปกว่า 1 ใน 4 ในการซื้อขายช่วง 4 วันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ความไม่แน่ใจที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับภาวะของบรรดาบริษัทคู่แข่งของ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ นั้น ได้ทำให้เกิดการเทขายทั่วทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้บางบริษัทต้องระงับการซื้อขายชั่วคราว และบางบริษัทเตรียมยื่นขอล้มละลาย
นักวิเคราะห์ของธนาคารมิซูโฮระบุในรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ว่า ปริมาณซื้อขายรายวันในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปีนี้ราว 30-40%
แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐได้ปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นคอยน์เบส โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงของแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทฯ ที่เกิดจากผลกระทบของการที่ FTX ประสบกับภาวะล้มละลาย
นายไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของบริษัทคอยน์เบสกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ว่า ทางบริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับ FTX แต่ก็รู้สึกเห็นใจทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หุ้นของคอยน์เบสร่วงลงมากกว่า 83% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้