สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 6.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 7.3% เนื่องจากราคาผักและผลไม้ลดลงอย่างมาก และต้นทุนการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุดลดลงอย่างมาก
ดัชนี CPI เดือนต.ค.ปรับตัวลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.4% ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ว่า อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียอาจจะถึงจุดพีกแล้ว และอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียไม่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงเหมือนกับที่มีการคาดการณ์ไว้
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดนั้น ขยับขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอลงอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วทั้งสิ้น 2.75% สู่ระดับ 2.85% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ