ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงทั่วภูมิภาคเอเชียในเดือนพ.ย. เนื่องจากการชะลอตัวลงของอุปสงค์ทั่วโลก และความไม่แน่นอนของผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ในจีน ได้สร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาของภูมิภาคเอเชียในปี 2566 เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ของจีนได้ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศหยุดชะงัก และทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอีก
ผลสำรวจจากไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอลระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในเดือนพ.ย.มาอยู่ที่ระดับ 49.4 ซึ่งแม้ว่าขยับขึ้นจากระดับ 49.2 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 48.9 แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของจีนอยู่ที่ระดับ 48 ลดลงจากระดับ 49.2 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นซึ่งจัดทำโดยธนาคารจีบัน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563
ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอลระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 49.0 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.2 ในเดือนพ.ย. แต่ดัชนีอยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของเกาหลีใต้อยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 5
นอกจากนี้ ทางการเกาหลีใต้ยังเปิดเผยรายงานการส่งออกเดือนพ.ย.ร่วงลง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.191 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในตลาดสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีน รวมทั้งการชะลอตัวในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ การใช้มาตรการล็อกดาวน์ในจีนยังส่งผลกระทบต่ออีกหลายประเทศในเอเชีย โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของไต้หวันอยู่ที่ระดับ 41.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งแม้ว่าขยับขึ้นจากระดับ 41.5 ในเดือนต.ค. แต่ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของเวียดนาม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.4 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.6 ในเดือนต.ค. และดัชนี PMI ภาคการผลิตของอินโดนีเซีย ลดลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค.