เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) และมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า อินเดียอาจกลายมาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแซงหน้าญี่ปุ่นและเยอรมนี
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายปีของอินเดียมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 6.3% จนถึงปี 2573 สอดคล้องกับคาดการณ์ของมอร์แกน สแตนลีย์ที่มองว่า GDP อินเดีย มีแนวโน้มจะเติบโตเป็นเท่าตัวจากระดับปัจจุบันภายในปี 2574
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์นำโดยริดัม เดไซและกิริช แอคคิปาเลีย ระบุว่า "อินเดียมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยแรงขับเคลื่อนจากการทำธุรกิจในต่างประเทศ การลงทุนด้านการผลิต การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ล้ำสมัยของประเทศ โดยปัจจัยเหล่านี้จะทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและตลาดหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกก่อนสิ้นสุดทศวรรษนี้"
อินเดียรายงานว่า GDP ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ขยายตัวที่ระดับ 6.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ที่ 6.2% เล็กน้อย ขณะที่ก่อนหน้านี้ อินเดียรายงานว่า GDP ขยายตัว 13.5% สำหรับช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภาคบริการในประเทศที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ รีฟินิทิฟ (Refinitiv) ระบุว่า GDP ของอินเดียขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 20.1% สำหรับเดือนเม.ย.- มิ.ย. 2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี